วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ดอกรสสุคนธ์

มะลิวันพันกอพฤกษาดาด
เหมือนผ้าลาดขาวละออหนอน้องเอ๋ย
รสสุคนธ์ขึ้นเป็นดงอย่าหลงเลย
กำลังเผยกลีบเกสรสลอนชู
เงาะป่า : พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tetracera loureiri Pierre.
ตระกูล Dilleniaceae
ชื่อสามัญ -
ถิ่นกำเนิด ไทย
เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง โคนลำต้นใหญ่ได้ถึง 15 เซนติเมตร และเลื้อยได้ใกลถึง 8 เมตรกิ่งออ่นและยอดออ่นมีขนแข็งสั้นๆสากคายมือ ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปไข่กลับถึงขอบขนาน กว้าง 4-7 เซนติเมตรยาว 7-16 เซนติเมตร ปลายใบแหลมทู่ถึงกลมมน โคนใบแหลมถึงสอบแคบ ขอบใบจัก สีเขียวเข้ม เนื้อใบสาก เส้นกลางใบและเส้นใบด้านบนเป็นรอยลึก เส้นใบ 10-15 คู่ ก้านใบยาว 1-1.5 เซนติเมตร ช่อดอกสีขาวยาว 5-15 เซนติเมตร ออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกยอ่ยมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่ขนาดเล็กติดทนอยู่จนเป็นผล เมื่อดอกย่อยบานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร กลีบดอกร่วงงาย มีเกสรเพศผู้จำนวนมาก คลายเส้นด้ายสีขาว ดอกเริ่มบานและส่งกลิ่นหอมในช่วงพลบค่ำแจนถึงช่วงกลางวัน ดอกบานเกือบพร้อมกันทั้งช่อ และบานวันเดียวแล้วโรย ผลค่อนข้างกลม สีส้มถึงสีแดง มี 2-3 ผล อยู่รวมกันเป็กระจุก เมล็ดรูปไข่ อยู่ในเยื่อรูปถ้วย สีแดง ออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ รสสุคนธ์ขาว เป็นไม้กลางแจ้ง แสงแดดจัด ชอบดินที่ระบายน้ำได้ดี ปลูกเป็นไม้กระถางได้ดีใช้ไม้ปักให้เลื้อยไต่พันเมื่อต้นโตใหญ่เหมาะปลูกประดับซุ้มเลื้อยเกี่ยวรั้วหรือตอไม้ในที่โล่งตัดแต่งกิ่งหรือช่อดอกเก่าทิ้งมิให้รกเกินไป จะมองดูสวยงามและเร่งให้ออกดอกชุดใหม่ได้เร็วขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น